กฎกระทรวง
คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว
พ.ศ. 2564
----------------------

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง และมาตรา 7 วรรคหนึ่ง (1) (2) (3) (5) และ (7) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 และมาตรา 7 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป  …. (มีผลบังคับใช้ 8 มกราคม 2565)

ข้อ 2 ในกฎกระทรวงนี้

“ก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า ก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง

“คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง

“เขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า แนวเขตของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามที่กำหนดในแผนผังบริเวณของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว

“แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า อาคารและวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ใช้ในการจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการติดตั้งหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวไว้ด้วยหรือไม่ก็ตาม

“กำแพงกันไฟ” หมายความว่า กำแพงทึบที่สร้างด้วยวัสดุถาวรและทนไฟ มีความหนาไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร และไม่มีช่องให้ไฟผ่านได้

“บริเวณอันตราย” หมายความว่า พื้นที่รอบ ๆ ที่ตั้งและเก็บภาชนะบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว และพื้นที่รอบ ๆ บริเวณและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการรับหรือจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว

“สถานพยาบาล” หมายความว่า สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

“สถานศึกษา” หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศึกษาในระบบที่เป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือการศึกษาระดับอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยการอุดมศึกษา

“ศาสนสถาน” หมายความว่า วัดตามกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ มัสยิดตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารองค์กรศาสนาอิสลาม วัดบาทหลวงตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะฐานะของวัดบาทหลวงโรมันคาธอลิกในกรุงสยามตามกฎหมาย หรือสถานที่ประกอบศาสนกิจในนิกายหรือศาสนาอื่น

“โบราณสถาน” หมายความว่า โบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

“ทางสัญจร” หมายความว่า ทางหลวง ถนนสาธารณะ ทางสาธารณะ หรือถนนส่วนบุคคล

“ทางแยก” หมายความว่า ทางสัญจรที่มีความกว้างของถนนตั้งแต่ 12.00 เมตร ขึ้นไป และมีความยาวของถนนจากจุดตัดหรือจุดบรรจบตั้งแต่ 200.00 เมตร ขึ้นไป

“ความกว้างของถนน” หมายความว่า ระยะที่วัดจากเขตทางด้านหนึ่งไปยังเขตทางด้านตรงข้าม

หมวด 1
บททั่วไป
----------------

ข้อ 3 การออกแบบ การสร้าง การทดสอบและตรวจสอบถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ให้เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยภาชนะบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 4 การออกแบบ การสร้าง การทดสอบและตรวจสอบเสารับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ ในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

การทดสอบและตรวจสอบเสารับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ตามวรรคหนึ่ง ต้องดำเนินการโดยผู้ทดสอบและตรวจสอบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคุณสมบัติของผู้ทดสอบและตรวจสอบที่ออกตามมาตรา 7

ข้อ 5 การวัดระยะห่างของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ให้วัดจากผนังถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือขอบแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แล้วแต่กรณี

การวัดระยะห่างของอาคาร ให้วัดจากผนังหรือเสาอาคาร

การวัดระยะห่างตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ต้องวัดจากระยะที่ใกล้ที่สุด

หมวด 2
ที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ ลักษณะ และระยะปลอดภัย
ของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว
----------------

ส่วนที่ 1
แผนผังและแบบก่อสร้าง
----------------

ข้อ 6 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีแผนผังโดยสังเขปแสดงตำแหน่งที่ตั้งของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว พร้อมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่อยู่รอบเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวภายในระยะไม่น้อยกว่า 500.00 เมตร

ในกรณีที่แผนผังตามวรรคหนึ่ง ไม่สามารถแสดงถึงที่ตั้งของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ ให้จัดทำแผนผังในระยะที่ทำให้สามารถบ่งชี้ถึงที่ตั้งของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้

ข้อ 7 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีแผนผังบริเวณของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่แสดงแนวเขตที่ดิน เขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แหล่งน้ำหรือที่เก็บน้ำ กำแพงกันไฟ รั้วโปร่งและประตู ท่อหรือรางระบายน้ำหลัก ที่จอดรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ รวมถึงทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ

การแสดงรายละเอียดตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องแสดงระยะปลอดภัยต่าง ๆ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้

ข้อ 8 แผนผังระบบท่อและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ให้แสดงแต่ละแผนผัง ดังต่อไปนี้

(1) แผนผังระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์

(2) แผนผังระบบท่อดับเพลิงและอุปกรณ์ที่แสดงตำแหน่งเครื่องสูบน้ำดับเพลิง และแหล่งน้ำหรือที่เก็บน้ำ

ข้อ 9 แบบก่อสร้างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และเสารับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) แปลนส่วนบน แปลนส่วนล่าง แปลนฐานราก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ติดตั้งอยู่กับถัง

(2) รูปด้าน รูปตัด และรายละเอียดของฐานราก

(3) รายละเอียดการก่อสร้างและการติดตั้งถัง

ข้อ 10 แบบระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) จุดรับ จุดจ่าย ขนาดท่อ ลิ้นปิดเปิด และอุปกรณ์

(2) เครื่องสูบก๊าซปิโตรเลียมเหลวพร้อมระบุแรงดันและอัตราสูบของเครื่อง

(3) ฐานรองรับระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์

ข้อ 11 แบบก่อสร้างแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) แปลนพื้น แปลนฐานราก แปลนหลังคา และแปลนโครงสร้าง

(2) รูปด้านอย่างน้อยสองด้าน

(3) รูปตัดตามขวางและรูปตัดตามยาว

(4) รายละเอียดของโครงสร้าง

(5) รายละเอียดของระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่กับแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 12 แบบระบบท่อดับเพลิงและอุปกรณ์ ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) ขนาดท่อ ลิ้นปิดเปิด และอุปกรณ์

(2) เครื่องสูบน้ำพร้อมระบุแรงดันและอัตราสูบของเครื่อง

(3) ฐานรองรับระบบท่อดับเพลิงและอุปกรณ์

(4) แหล่งน้ำหรือที่เก็บน้ำ

ข้อ 13 แบบก่อสร้างกำแพงกันไฟ รั้วโปร่ง และประตู ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) แปลนพื้น แปลนฐานราก รูปด้าน และรูปตัด

(2) รายละเอียดแสดงส่วนต่าง ๆ ของกำแพงกันไฟ รั้วโปร่ง และประตู

ข้อ 14 แบบก่อสร้างท่อหรือรางระบายน้ำ ต้องแสดงรายละเอียดอย่างน้อย ดังต่อไปนี้

(1) แปลนพื้น

(2) รูปตัดตามขวางและรูปตัดตามยาว

(3) ฝาตะแกรงปิดรางระบายน้ำและบ่อพัก

(4) รายละเอียดแสดงส่วนต่าง ๆ ของท่อหรือรางระบายน้ำ

ข้อ 15 ในกรณีที่มีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ให้แสดงแบบรายละเอียดสิ่งก่อสร้างนั้นด้วย

ข้อ 16 แผนผังและแบบก่อสร้าง ให้ใช้มาตราส่วน ดังต่อไปนี้

(1) แผนผังตามข้อ 7 และข้อ 8 ให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 500 เว้นแต่คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ตั้งอยู่ในโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 2,000 ทั้งนี้ ต้องแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ให้สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน

(2) แบบก่อสร้างตามข้อ 9 (1) และ (2) และข้อ 11 (1) (2) และ (3) ให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 100 เว้นแต่คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ตั้งอยู่ในโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ให้ใช้มาตราส่วนไม่เล็กกว่า 1 ใน 250

ข้อ 17 การก่อสร้างสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ภายในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ให้มีระยะความคลาดเคลื่อนจากแผนผังบริเวณที่ได้รับอนุญาตได้ไม่เกินร้อยละยี่สิบ ทั้งนี้ ต้องไม่น้อยกว่าระยะปลอดภัยตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ และสัดส่วนของสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จให้มีระยะความคลาดเคลื่อนจากแบบก่อสร้างที่ได้รับอนุญาตได้ไม่เกินร้อยละห้า

ข้อ 18 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องแสดงรายการคำนวณความมั่นคงแข็งแรงของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว เสารับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำแพงกันไฟ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ภายในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมทั้งรายการคำนวณของระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลว ระบบท่อดับเพลิง ตลอดจนแผนผังของระบบไฟฟ้า ระบบสัญญาณเตือนภัย และระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า

ข้อ 19 แบบก่อสร้างและรายการคำนวณความมั่นคงแข็งแรงของฐานรากถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว กำแพงกันไฟ หรือสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ตามข้อ 9 ข้อ 11 ข้อ 13 ข้อ 15 และข้อ 18 ที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นผู้อนุญาตแล้ว ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องแสดงรายละเอียดตามที่ระบุไว้ แต่ให้ใช้แบบก่อสร้างและรายการคำนวณดังกล่าวมาแสดงแทน

ส่วนที่ 2
ลักษณะและระยะปลอดภัยภายนอก
----------------

ข้อ 20 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีระยะปลอดภัยภายนอก ดังต่อไปนี้

(1) ตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสมและปลอดภัยแก่การขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(2) ตั้งอยู่ห่างจากเขตพระราชฐานไม่น้อยกว่า 1,000.00 เมตร

(3) ตั้งอยู่ห่างจากเขตสถานพยาบาล สถานศึกษา ศาสนสถาน และโบราณสถานไม่น้อยกว่า 200.00 เมตร

(4) ตั้งอยู่ห่างจากเขตสถานที่อื่นใดนอกจากที่กำหนดใน (2) และ (3) และในระยะห่างเท่าใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

การวัดระยะห่างระหว่างคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับเขตสถานที่ตามวรรคหนึ่ง ให้วัดจากถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับเขตสถานที่นั้น

ข้อ 21 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีลักษณะและระยะปลอดภัยภายนอก ดังต่อไปนี้

(1) มีทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะเชื่อมต่อกับทางสัญจรที่มีความกว้างของถนนไม่น้อยกว่า 12.00 เมตร และต้องได้รับอนุญาตหรือได้รับความยินยอมให้ทำทางเชื่อมเพื่อใช้เป็นทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะจากเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจอนุญาตหรือเจ้าของทางสัญจรดังกล่าว ทั้งนี้ ทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะต้องมีความกว้างของถนนไม่น้อยกว่า 10.00 เมตร ขอบทางเลี้ยวเข้าและเลี้ยวออกต้องโค้งออก และมีรัศมีความโค้งไม่น้อยกว่า 6.00 เมตร เพื่อให้รถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวเข้าออกได้โดยสะดวก ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 1 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(2) จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะที่เชื่อมต่อกับทางสัญจรที่มีเกาะกลาง ทางระบายน้ำ หรือกำแพงเพื่อแบ่งการจราจรเป็นสองทิศทาง ต้องห่างจากจุดเริ่มต้นของช่องเปิดของเกาะกลาง ทางระบายน้ำ หรือกำแพงของทางสัญจรดังกล่าวไม่น้อยกว่า 50.00 เมตร ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 2 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(3) จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ ต้องไม่อยู่ตรงโค้งของทางสัญจรที่มีรัศมีความโค้งน้อยกว่า 1,000.00 เมตร และจะต้องห่างจากจุดเริ่มต้นของโค้งดังกล่าวไม่น้อยกว่า 50.00 เมตร ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 3 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(4) จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ ต้องห่างจากจุดเริ่มโค้งของทางแยกที่อยู่ฝั่งเดียวกันไม่น้อยกว่า 50.00 เมตร ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 4 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(5) จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ ต้องไม่อยู่ตรงโค้งตั้งของทางสัญจรที่มีความลาดชันด้านใดด้านหนึ่งเกิน 1 ต่อ 25 ขึ้นไป และต้องไม่อยู่บนทางสัญจรที่มีความลาดชันเกิน 1 ต่อ 25 ขึ้นไป ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 5 ท้ายกฎกระทรวงนี้ และหากทางสัญจรมีความลาดชันด้านใดด้านหนึ่งตั้งแต่ 1 ต่อ 50 ถึง 1 ต่อ 25 จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะต้องไม่อยู่ตรงโค้งตั้ง และต้องห่างจากจุดเริ่มต้นโค้งตั้งของทางสัญจรดังกล่าวไม่น้อยกว่า 150.00 เมตร ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 6 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(6) จุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะ ต้องห่างจากจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของเชิงลาดสะพานที่มีความลาดชันด้านใดด้านหนึ่งเกิน 1 ต่อ 50 ที่อยู่ในเส้นทางเดียวกันไม่น้อยกว่า 50.00 เมตร ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 7 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(7) จุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของเชิงลาดสะพานให้วัดจากจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดของเชิงลาดของทางส่วนที่เชื่อมกับสะพานที่มีความลาดชันตั้งแต่ 1 ต่อ 50 ไม่น้อยกว่า 50.00 เมตร หากมีความลาดชันไม่เกิน 1 ต่อ 50 ให้วัดจากคอสะพาน ดังตัวอย่างภาพประกอบที่ 8 ท้ายกฎกระทรวงนี้

คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะที่ผ่านการพิจารณาด้านความปลอดภัยและได้รับอนุญาตให้เชื่อมทางตามกฎหมายว่าด้วยทางหลวงแล้ว ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยระยะห่างระหว่างจุดเริ่มต้นของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะที่เชื่อมต่อกับทางสัญจรและลักษณะของทางเข้าและทางออกสำหรับยานพาหนะตามวรรคหนึ่ง (2) (3) (4) (5) (6) และ (7)

ส่วนที่ 3
ลักษณะและระยะปลอดภัยภายใน
----------------

ข้อ 22 การตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องมีลักษณะและระยะปลอดภัย ดังต่อไปนี้

(1) ระยะปลอดภัยสำหรับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบเหนือพื้นดิน ให้เป็นไปตามตารางที่ 1 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(2) ระยะปลอดภัยสำหรับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบกลบและแบบฝังไว้ในดิน ให้เป็นไปตามตารางที่ 2 ท้ายกฎกระทรวงนี้

(3) ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวจะต้องอยู่ห่างจากสิ่งก่อสร้างอื่นใดนอกจากที่กำหนดใน (1) และ (2) และในระยะห่างเท่าใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

(4) ต้องจัดให้มีระบบท่อฉีดน้ำเหนือผิวถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบเหนือพื้นดินเพื่อลดอุณหภูมิของผิวถัง ทั้งนี้ ลักษณะ การติดตั้ง รวมทั้งการทดสอบและตรวจสอบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

(5) ต้องไม่ตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวซ้อนกัน

(6) ต้องห่างจากภาชนะบรรจุน้ำมันที่มิใช่ถังเก็บน้ำมัน ซึ่งบรรจุน้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส ไม่น้อยกว่า 6.00 เมตร

(7) บริเวณที่ตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องมีรั้วโปร่งทำด้วยวัสดุทนไฟสูงไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร ล้อมรอบถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว โดยอยู่ห่างจากกองภาชนะบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่า 7.50 เมตร และที่รั้วโปร่งต้องมีทางเข้าออกอย่างน้อยสองทาง ทางเข้าออกดังกล่าวต้องมีประตูโปร่งที่เปิดออกด้านนอก มีกุญแจชนิดที่สามารถเปิดออกจากภายในได้โดยไม่ต้องไขกุญแจ และปิดประตูตลอดเวลาที่ไม่มีการปฏิบัติงาน ทั้งนี้ เว้นแต่ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ตั้งอยู่ในโรงกลั่นน้ำมันหรือโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หรือที่มีปริมาณความจุเกิน 454,000 ลิตรขึ้นไป จะไม่สร้างรั้วโปร่งล้อมรอบถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวก็ได้

(8) หัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวและท่อรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มิได้ติดตั้งอยู่กับแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องอยู่ภายในบริเวณรั้วโปร่ง และอยู่ห่างจากแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่นไม่น้อยกว่า 10.00 เมตร

(9) รั้วโปร่งด้านใดที่ยานพาหนะอาจเข้าไปชนได้ ต้องจัดให้มีเสาท่อเหล็ก หรืออุปกรณ์กันชนอื่นที่กรมธุรกิจพลังงานเห็นชอบ โดยเสาท่อเหล็กต้องมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร ภายในท่อเหล็กให้เทคอนกรีตเต็มฝังแน่นในดินนอกแนวรั้วโปร่งด้านนั้นลึกไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร รวมทั้งเสาท่อเหล็กนั้นต้องอยู่ห่างจากรั้วโปร่งไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร เสาแต่ละต้นสูงจากระดับพื้นของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่า 1.10 เมตร แต่ไม่เกิน 1.20 เมตร และมีระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้นไม่เกิน 1.20 เมตร

(10) ต้องไม่เก็บวัสดุใด ๆ ภายในบริเวณรั้วโปร่ง

ข้อ 23 แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีลักษณะและระยะปลอดภัยภายใน ดังต่อไปนี้

(1) ต้องอยู่ห่างจากอาคารอื่นหรือแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่นไม่น้อยกว่า 20.00 เมตร ถ้าไม่อาจจัดให้แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวอยู่ห่างตามระยะดังกล่าวได้ ต้องสร้างกำแพงกันไฟด้านนั้นสูงไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร และห่างจากแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่า 10.00 เมตร

(2) ต้องอยู่ห่างจากอาคารที่ใช้บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวของสถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงบรรจุในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ไม่น้อยกว่า 7.50 เมตร

(3) ระดับพื้นของแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องไม่ต่ำกว่าระดับพื้นภายนอก พื้นของแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องแข็งแรง เรียบ และผิวพื้นต้องเป็นวัสดุที่ทำให้เกิดประกายไฟจากการเสียดสีได้ยาก

(4) พื้นของแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องไม่มีร่อง บ่อ หรือที่ต่ำซึ่งจะเป็นที่สะสมก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ ถ้าจำเป็นต้องมีร่องหรือบ่ออยู่ภายในแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องทำท่อหรือรางระบายก๊าซปิโตรเลียมเหลวออกสู่ภายนอกอย่างเพียงพอ โดยต้องแยกจากท่อหรือรางระบายน้ำ

(5) หัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวด้านใดที่ยานพาหนะอาจเข้าไปชนได้ ต้องจัดให้มีอุปกรณ์ที่มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวดังกล่าว

ข้อ 24 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีที่จอดรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีขนาดช่องจอดรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวกว้างไม่น้อยกว่า 3.00 เมตร ยาวไม่น้อยกว่า 10.00 เมตรต่อคัน และมีจำนวนช่องจอดรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่าสองเท่าของผลรวมของจำนวนหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวและหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวสำหรับรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ที่จอดรถตามวรรคหนึ่ง ต้องอยู่ห่างจากแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่า 15.00 เมตร

หมวด 3
การรับหรือจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว
----------------

ข้อ 25 ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวให้บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวได้ไม่เกินร้อยละแปดสิบห้าของปริมาตรของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 26 การบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพื่อขนส่งให้บรรจุได้ไม่เกินร้อยละแปดสิบห้าของปริมาตรของถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือภาชนะขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย

ข้อ 27 การรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุม หรือภาชนะขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย

ข้อ 28 การจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุม หรือภาชนะขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย

ข้อ 29 ให้ผู้ประกอบกิจการควบคุมมีหน้าที่ควบคุมดูแลไม่ให้มีการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดเปลวไฟหรือประกายไฟในบริเวณที่มีการรับหรือจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 30 ผู้ประกอบกิจการควบคุมต้องจัดทำขั้นตอนการรับหรือจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และแสดงไว้ในที่เปิดเผย เห็นได้ง่าย ณ บริเวณแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

หมวด 4
การป้องกันและระงับอัคคีภัย
----------------

ข้อ 31 บริเวณอันตราย ระบบไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องเป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ออกตามมาตรา 7

ข้อ 32 เมื่อมีการติดตั้งระบบไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า และระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าเสร็จแล้ว ให้ผู้ประสงค์จะประกอบกิจการคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือผู้ประกอบกิจการควบคุมยื่นหนังสือขอรับการตรวจสอบและหนังสือรับรองการปฏิบัติตามข้อ 31 จากผู้ทดสอบและตรวจสอบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคุณสมบัติของผู้ทดสอบและตรวจสอบที่ออกตามมาตรา 7 และกฎกระทรวงว่าด้วยระบบไฟฟ้าและระบบป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าของสถานที่ประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ออกตามมาตรา 7

ข้อ 33 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องติดตั้งระบบท่อน้ำดับเพลิงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตร หรือเท่ากับขนาดของท่อน้ำประปาสำหรับดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องมีหัวท่อจ่ายน้ำดับเพลิงไม่น้อยกว่าสองจุด

ในกรณีที่คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวมีระบบท่อน้ำดับเพลิงขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 200 มิลลิเมตร จะต้องติดตั้งท่อรับน้ำจากภายนอกที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 100 มิลลิเมตร หรือเท่ากับขนาดของท่อน้ำประปาสำหรับดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และต้องมีหัวท่อรับไม่น้อยกว่าสองหัว พร้อมทั้งต้องจัดให้มีข้อต่อเพื่อรับน้ำดับเพลิงที่เป็นชนิดเดียวกับขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย

ท่อน้ำดับเพลิงให้ทาสีแดงตลอดทั้งเส้น

ข้อ 34 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องจัดให้มีแหล่งน้ำหรือที่เก็บน้ำซึ่งมีน้ำอยู่ตลอดเวลา โดยแหล่งน้ำหรือที่เก็บน้ำนั้นต้องมีปริมาตรน้ำไม่น้อยกว่า 0.6 ลูกบาศก์เมตร หรือ 600 ลิตรต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตรของพื้นที่ผิวด้านนอกของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว เศษของ 1 ตารางเมตร ให้คิดเป็น 1 ตารางเมตร

ข้อ 35 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีเครื่องสูบน้ำดับเพลิงที่ใช้เครื่องยนต์อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง โดยต้องมีความดันและอัตราการไหลตามมาตรฐานระบบป้องกันอัคคีภัยของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และต้องฉีดน้ำดับเพลิงได้ครอบคลุมบริเวณถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวและบริเวณพื้นที่รับหรือจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวทั้งหมด ทั้งนี้ ตำแหน่งการปิดเปิดของเครื่องสูบน้ำดับเพลิงต้องอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าไปใช้งานได้โดยสะดวก และอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา โดยจะต้องมีการตรวจสอบเครื่องสูบน้ำดับเพลิงอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

ข้อ 36 เครื่องสูบน้ำดับเพลิงและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดับเพลิงต้องติดตั้งหรือวางไว้ในตำแหน่งที่ห่างจากแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และกลุ่มถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ไม่น้อยกว่า 30.00 เมตร

ข้อ 37 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง หรือน้ำยาดับเพลิง หรือเครื่องดับเพลิงชนิดอื่นที่มิใช่เครื่องดับเพลิงชนิดฟองก๊าซ ขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 6.8 กิโลกรัม ตามมาตรฐานระบบป้องกันอัคคีภัยของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือมาตรฐานอื่นที่เทียบเท่าตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา และต้องติดตั้งไว้ตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) บริเวณถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีเครื่องดับเพลิงไม่น้อยกว่าหนึ่งเครื่องต่อพื้นที่ใต้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว 50 ตารางเมตร เศษของ 50 ตารางเมตร ให้คิดเป็น 50 ตารางเมตร ทั้งนี้ การคำนวณพื้นที่ใต้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวให้รวมพื้นที่ที่ห่างจากถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว 3.00 เมตรโดยรอบด้วย

(2) บริเวณประตูทางเข้าออกของรั้วโปร่งล้อมรอบถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีเครื่องดับเพลิงไม่น้อยกว่าประตูละหนึ่งเครื่อง

(3) บริเวณหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีเครื่องดับเพลิงไม่น้อยกว่าหนึ่งเครื่องต่อหัวรับก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือหัวจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แล้วแต่กรณี

(4) ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณความจุเกิน 50,000 ลิตร ต้องจัดให้มีเครื่องดับเพลิงขนาดบรรจุไม่น้อยกว่า 50 กิโลกรัม ติดตั้งบนล้อเลื่อน เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเครื่องต่อถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหนึ่งถัง โดยเครื่องดับเพลิงดังกล่าวต้องตั้งอยู่ใกล้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวนั้น

(5) การติดตั้งเครื่องดับเพลิง ให้ติดตั้งโดยรอบบริเวณคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวในที่ที่สามารถมองเห็นและนำไปใช้งานได้โดยสะดวก

เครื่องดับเพลิงตามวรรคหนึ่ง ต้องมีคุณภาพและมีปริมาณสารดับเพลิงเพียงพอพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา และต้องมีการตรวจสอบคุณภาพโดยการสุ่มตัวอย่างอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง และมีการจัดทำรายงานการตรวจสอบคุณภาพและเก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี เพื่อให้กรมธุรกิจพลังงานสามารถเรียกตรวจสอบได้

ข้อ 38 แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีหลังคาต้องจัดให้มีระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยแบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงที่สามารถฉีดน้ำได้ครอบคลุมพื้นที่แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ลักษณะ การติดตั้ง รวมทั้งการทดสอบและตรวจสอบระบบป้องกันและระงับอัคคีภัยแบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

ข้อ 39 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องมีระบบสัญญาณเตือนภัยที่สามารถได้ยินหรือรับรู้ได้อย่างทั่วถึงและชัดเจน โดยมีอุปกรณ์แจ้งเหตุติดตั้งไว้ใกล้แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือกลุ่มถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ในจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัย แต่ไม่น้อยกว่าสองตำแหน่ง และติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเหตุในบริเวณอาคารสำนักงานหนึ่งตำแหน่งหรือตามที่กรมธุรกิจพลังงานกำหนด โดยต้องจัดให้มีการทดสอบระบบสัญญาณเตือนภัยอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง

ข้อ 40 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้องติดตั้งเครื่องส่งเสียงดังเมื่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวรั่วไว้ที่บริเวณที่ตั้งถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว แท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และเครื่องสูบก๊าซปิโตรเลียมเหลว อย่างน้อยบริเวณละหนึ่งเครื่อง โดยต้องมีจำนวนที่เพียงพอต่อการรักษาความปลอดภัย และต้องตรวจสอบให้เครื่องส่งเสียงดังเมื่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวรั่วอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้และเปิดใช้งานตลอดเวลา

ข้อ 41 ผู้ประกอบกิจการควบคุมต้องจัดทำแผนระงับเหตุเพลิงไหม้และจัดให้มีการฝึกซ้อมแผนระงับเหตุเพลิงไหม้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวอยู่ในเขตท้องที่อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง รวมทั้งจัดทำรายงานการฝึกซ้อมแผนระงับเหตุเพลิงไหม้และเก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีเพื่อให้กรมธุรกิจพลังงานสามารถเรียกตรวจสอบได้

ให้มีการแสดงรายงานการประเมินความเสี่ยงของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา

ข้อ 42 ในการประกอบกิจการคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ต้องจัดให้มีพนักงานซึ่งผ่านการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานตามกฎกระทรวงว่าด้วยคุณสมบัติและการฝึกอบรมผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดให้มีและแสดงป้ายรายชื่อพนักงานซึ่งผ่านการฝึกอบรมดังกล่าวไว้ในที่ที่เห็นได้ชัดเจน

ข้อ 43 การเลิกประกอบกิจการคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือเลิกใช้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ ต้องได้รับการรับรองจากผู้ทดสอบและตรวจสอบตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดคุณสมบัติของผู้ทดสอบและตรวจสอบที่ออกตามมาตรา 7 ว่าไม่มีก๊าซปิโตรเลียมเหลวและไอก๊าซปิโตรเลียมเหลวค้างอยู่

เมื่อได้รับการรับรองตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ผู้ประกอบกิจการควบคุมแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมหนังสือรับรองภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่การทดสอบและตรวจสอบเสร็จสิ้น และเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ห้ามใช้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์อีก

บทเฉพาะกาล
----------------

ข้อ 44 ภายใต้บังคับข้อ 45 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้รับใบอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบแบบแปลน แผนผัง และแบบก่อสร้างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงนี้ เว้นแต่ข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 22 (4) (5) (6) (7) (8) (9) และ (10) ข้อ 23 ข้อ 25 ข้อ 26 ข้อ 27 ข้อ 28 ข้อ 29 ข้อ 31 ข้อ 32 ข้อ 40 ข้อ 42 และข้อ 43

คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามวรรคหนึ่ง ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อ 24 ข้อ 30 ข้อ 33 ข้อ 34 ข้อ 35 ข้อ 36 ข้อ 37 ข้อ 38 ข้อ 39 และข้อ 41 ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ในกรณีที่คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามวรรคหนึ่ง ไม่สามารถจัดให้มีที่จอดรถขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามข้อ 24 ได้โดยสภาพ ให้ผู้ประกอบกิจการควบคุมยื่นขอรับการยกเว้นต่ออธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานกำหนด

ข้อ 45 ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว เสารับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว และระบบท่อก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอุปกรณ์ในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้รับใบอนุญาตอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับการออกแบบและสร้างตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ แต่ต้องดำเนินการทดสอบและตรวจสอบตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้

ข้อ 46 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้รับใบอนุญาตอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ หากมีการรื้อถอนและก่อสร้างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวขึ้นใหม่ในตำแหน่งเดิม โดยมีขนาดและปริมาณการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่เกินกว่าที่เคยได้รับใบอนุญาตไว้ ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามส่วนที่ 2 ลักษณะและระยะปลอดภัยภายนอก และส่วนที่ 3 ลักษณะและระยะปลอดภัยภายในของหมวด 2 ที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ ลักษณะ และระยะปลอดภัยของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวเฉพาะที่เกี่ยวกับระยะปลอดภัย

ข้อ 47 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ได้รับใบอนุญาตหรือได้รับความเห็นชอบแบบแปลน แผนผัง และแบบก่อสร้างตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ หากมีการสร้างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวขึ้นใหม่ หรือสร้างขึ้นตามแบบก่อสร้างที่ได้รับความเห็นชอบแล้วในเขตคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลวดังกล่าว ภายในสิบปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้มีระยะปลอดภัยภายนอกตามข้อ 20 วรรคหนึ่ง (3) ได้ไม่น้อยกว่า 100.00 เมตร

 

ให้ไว้ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

เล่ม 138 ตอนที่ 45 ก ราชกิจจานุเบกษา 12 กรกฎาคม 2564

 

ตารางที่ 1
ระยะปลอดภัยสำหรับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบเหนือพื้นดิน
------------------------------

 

หมายเหตุ       ก = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่น ทางหลวง ถนนสาธารณะ หรือทางสาธารณะ

                      ข = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับอาคาร

                      ค = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวด้วยกัน

                      ง =  ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับรั้วโปร่ง

                      จ = ในกรณีที่อยู่ใกล้กับถังเก็บน้ำมันที่ต้องมีเขื่อนหรือกำแพงล้อมรอบ เป็นระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับจุดศูนย์กลางเขื่อนหรือกำแพงล้อมรอบถังเก็บน้ำมัน แต่ในกรณีที่อยู่ใกล้กับถังเก็บน้ำมันที่ไม่ต้องมีเขื่อนหรือกำแพงล้อมรอบ เป็นระยะห่างระหว่างผนังถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับผนังถังเก็บน้ำมัน โดยให้ลดระยะดังกล่าวลงกึ่งหนึ่ง

                      ฉ = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับแท่นจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

                       * = 1/4 ของผลบวกของเส้นผ่าศูนย์กลางของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่อยู่ติดกัน แต่ทั้งนี้ต้องไม่น้อยกว่า 1.50 เมตร

 

ตารางที่ 2
ระยะปลอดภัยสำหรับถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบกลบและแบบฝังไว้ในดิน
------------------------------

 

หมายเหตุ       ก = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับแนวเขตที่ดินของบุคคลอื่น ทางหลวง ถนนสาธารณะ หรือทางสาธารณะ

                      ข = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับอาคาร

                      ค = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวด้วยกัน

                      ง =  ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับรั้วโปร่ง

                      จ = ระยะห่างระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับเครื่องสูบน้ำมัน

 

ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบกลบ หมายถึง ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวบนดินที่หุ้มด้วยดินทราย หรือวัสดุทนไฟที่ฉาบด้วยปูนก่อ หรือก่อด้วยอิฐ หรือวัสดุทนไฟอย่างอื่น และความหนาของวัสดุที่หุ้มถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวไม่น้อยกว่า 0.60 เมตรโดยรอบ

ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแบบฝังไว้ในดิน หมายถึง ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ติดตั้งไว้ภายในบ่อคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีความหนาของผนังและพื้นไม่น้อยกว่า 0.20 เมตร ซึ่งมีการป้องกันน้ำรั่วซึมผ่านได้ และกลบด้วยทรายน้ำจืดเม็ดหยาบแห้งสนิท มีความหนาของวัสดุที่กลบถังไม่น้อยกว่า 0.60 เมตรโดยรอบ มีฝาคอนกรีตเสริมเหล็กปิดที่ส่วนบนของบ่อ และบนฝาดังกล่าวมีรูปลักษณะและตำแหน่งของถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวแสดงไว้ บ่อคอนกรีตเสริมเหล็กและฐานรากรองรับบ่อต้องออกแบบและก่อสร้างให้สามารถรับแรง และน้ำหนักต่าง ๆ ที่มากระทำต่อได้โดยปลอดภัย

 

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่มาตรา 7 วรรคหนึ่ง (1) (2) (3) (5) และ (7) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 บัญญัติให้ออกกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเก็บรักษาและการแบ่งบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ตั้ง แผนผัง รูปแบบ และลักษณะของคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ลักษณะของถังหรือภาชนะที่ใช้ในการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวและการบำรุงรักษาถังหรือภาชนะดังกล่าว และวิธีการปฏิบัติงานและการจัดให้มีและบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือเครื่องมืออื่นใดภายในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมทั้งกำหนดการอื่นใดอันจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อนรำคาญ หรือความเสียหาย หรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม จากการประกอบกิจการคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้