ReadyPlanet.com
dot
ฐานข้อมูลกรมโยธาธิการและผังเมือง
กฎหมายเกี่ยวกับตรวจสอบอาคาร
ศูนย์ประเมินความรู้ความสามารถตามมาตรา ๒๖/๔ (๒) สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร




กฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2556
วันที่ 10/07/2022   18:02:14

กฎกระทรวง

กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต
และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง
พ.ศ. 2556

-------------------------

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 17 วรรคหนึ่ง มาตรา 19 วรรคสอง มาตรา 21 มาตรา 23 วรรคสอง มาตรา 25 วรรคสอง และมาตรา 28 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 และมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจํากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 33 มาตรา 41 และมาตรา 43 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้ กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 2 ให้ยกเลิก

(1) กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546

(2) กฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547

ข้อ 3 ในกฎกระทรวงนี้

น้ำมัน” หมายความว่า น้ำมันดิบ น้ำมันเบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา น้ำมันหล่อลื่น และน้ำมันอื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดในราชกิจจานุเบกษา ให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตาม (2) ของบทนิยามคำว่า “น้ำมันเชื้อเพลิง” ในมาตรา 4

ก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า ก๊าซปิโตรเลียมที่ประกอบด้วยโพรเพน โพรพิลีน นอร์แมลบิวเทน ไอโซบิวเทน หรือบิวทิลีน อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างผสมกัน

ก๊าซธรรมชาติ” หมายความว่า

(1) ก๊าซปิโตรเลียมที่ประกอบด้วยมีเทนเป็นส่วนใหญ่ หรือ

(2) ก๊าซที่เกิดจากการเสื่อมสลายผุพังของสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่สืบเนื่องจากสิ่งมีชีวิต

คลังน้ำมัน” หมายความว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บน้ำมัน

คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว

คลังก๊าซธรรมชาติ” หมายความว่า คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซธรรมชาติ

สถานีบริการน้ำมัน” หมายความว่า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บน้ำมัน เพื่อให้บริการน้ำมันแก่ยานพาหนะ

สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อให้บริการก๊าซปิโตรเลียมเหลวแก่ยานพาหนะ

สถานีบริการก๊าซธรรมชาติ” หมายความว่า สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้บริการก๊าซธรรมชาติแก่ยานพาหนะ

สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ในการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มหรือกระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลว และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือใบอนุญาต ให้ใช้เป็นสถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือใบอนุญาต ให้ใช้เป็นสถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

สถานที่เก็บรักษาน้ำมัน” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ในการเก็บรักษาน้ำมัน และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ใบอนุญาต หรือใบรับแจ้ง ให้ใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาน้ำมัน ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่รวมถึง คลังน้ำมันและสถานีบริการน้ำมัน

สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลว” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ในการเก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลว และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ใบอนุญาต หรือใบรับแจ้ง ให้ใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลว ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่รวมถึงคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว และสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว

สถานที่เก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ” หมายความว่า สถานที่ที่ใช้ในการเก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงบริเวณที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือใบรับแจ้ง ให้ใช้เป็นสถานที่เก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนสิ่งก่อสร้าง ถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่รวมถึงคลังก๊าซธรรมชาติ สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ และสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ

ถังขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง” หมายความว่า ถังขนส่งน้ำมัน ถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว และ ถังขนส่งก๊าซธรรมชาติ

ระบบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อ” หมายความว่า ระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ ระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ และระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ

จุดวาบไฟ” หมายความว่า อุณหภูมิ ณ จุดที่ไอของน้ำมันเชื้อเพลิงลุกเป็นเปลวไฟวาบขึ้นเมื่อสัมผัสกับเปลวไฟทดสอบ

ถนนสาธารณะ” หมายความว่า ถนนที่เปิดหรือยินยอมให้ประชาชนเข้าไปหรือใช้เป็นทางสัญจรได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีการเรียกเก็บค่าตอบแทนหรือไม่

อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมธุรกิจพลังงานหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานมอบหมาย

หมวด 1
บททั่วไป
-------------------------

ข้อ 4 การเก็บน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซธรรมชาติ ตามประเภทและลักษณะของกิจการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง ให้เก็บในภาชนะบรรจุน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือก๊าซธรรมชาติ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้

ส่วนที่ 1
น้ำมัน
-------------------------

ข้อ 5 น้ำมันมี 3 ชนิด ดังต่อไปนี้

(1) ชนิดไวไฟมาก ได้แก่ น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 37.8 องศาเซลเซียส

(2) ชนิดไวไฟปานกลาง ได้แก่ น้ำมันที่มีจุดวาบไฟตั้งแต่ 37.8 องศาเซลเซียสขึ้นไป แต่ต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส

(3) ชนิดไวไฟน้อย ได้แก่ น้ำมันที่มีจุดวาบไฟตั้งแต่ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป

ข้อ 6 ภาชนะบรรจุน้ำมันมี 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) ขวดน้ำมัน

(2) กระป๋องน้ำมัน

(3) ถังน้ำมัน

(4) ถังเก็บน้ำมัน

(5) ถังขนส่งน้ำมัน

ข้อ 7 ขวดน้ำมัน ได้แก่

(1) ภาชนะแก้วสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟมากที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 0.5 ลิตร

(2) ภาชนะแก้วสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางหรือชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 1 ลิตร

ข้อ 8 กระป๋องน้ำมัน ได้แก่

(1) ภาชนะเหล็กเคลือบดีบุกสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางหรือชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 20 ลิตร

(2) ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟมากที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 4 ลิตร

(3) ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางหรือชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 20 ลิตร

ข้อ 9 ถังน้ำมัน ได้แก่

(1) ภาชนะเหล็กสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟมาก ชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 227 ลิตร

(2) ภาชนะพลาสติกสำหรับบรรจุน้ำมันชนิดไวไฟน้อยประเภทน้ำมันหล่อลื่นที่มีปริมาณความจุเกิน 20 ลิตร แต่ไม่เกิน 227 ลิตร

ข้อ 10 ถังเก็บน้ำมัน ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุน้ำมันที่มีปริมาณความจุเกิน 227 ลิตร แบ่งตามลักษณะการติดตั้งได้ 3 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(1) ถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดิน มี 2 ชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) ถังเก็บน้ำมันขนาดเล็ก ได้แก่ ถังเก็บน้ำมันที่มีปริมาณความจุเกิน 227 ลิตร แต่ไม่เกิน 2,500 ลิตร

(ข) ถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ ได้แก่ ถังเก็บน้ำมันที่มีปริมาณความจุเกิน 2,500 ลิตรขึ้นไป แบ่งเป็น

1) ถังตามแนวนอน

2) ถังตามแนวตั้ง

(2) ถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน ได้แก่ ถังเก็บน้ำมันตามแนวนอนหรือแนวตั้งหรือถังทรงกลมที่ฝังอยู่ใต้พื้นดิน

(3) ถังเก็บน้ำมันที่ติดตั้งภายในโป๊ะเหล็ก ได้แก่ ถังเก็บน้ำมันตามแนวนอนหรือแนวตั้งหรือถังทรงกลมที่เชื่อมหรือตรึงไว้ภายในโป๊ะเหล็ก

ข้อ 11 ถังขนส่งน้ำมัน ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุน้ำมันเพื่อใช้ในการขนส่งน้ำมันที่มีปริมาณความจุเกิน 500 ลิตรขึ้นไป ที่นํามาตรึงไว้กับตัวโครงรถหรือแคร่รถไฟ หรือที่สร้างเข้าไว้ด้วยกันกับตัวรถ

ข้อ 12 คลังน้ำมัน ได้แก่ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บน้ำมันมีปริมาณเกิน 500,000 ลิตรขึ้นไป

ข้อ 13 สถานที่เก็บรักษาน้ำมันมี 3 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(1) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ สถานที่เก็บน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟมากที่มีปริมาณไม่เกิน 40 ลิตร

(ข) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางที่มีปริมาณไม่เกิน 227 ลิตร

(ค) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณไม่เกิน 454 ลิตร

(2) ลักษณะที่สอง ได้แก่ สถานที่เก็บน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟมากที่มีปริมาณเกิน 40 ลิตร แต่ไม่เกิน 454 ลิตร

(ข) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางที่มีปริมาณเกิน 227 ลิตร แต่ไม่เกิน 1,000 ลิตร

(ค) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณเกิน 454 ลิตร แต่ไม่เกิน 15,000 ลิตร

(3) ลักษณะที่สาม ได้แก่ สถานที่เก็บน้ำมันชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟมากที่มีปริมาณเกิน 454 ลิตรขึ้นไป

(ข) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางที่มีปริมาณเกิน 1,000 ลิตรขึ้นไป

(ค) สถานที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณเกิน 15,000 ลิตรขึ้นไป

โดยปริมาณทั้งหมดของน้ำมันในสถานที่เก็บรักษาน้ำมันลักษณะที่สามรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 500,000 ลิตร

ข้อ 14 สถานีบริการน้ำมันแบ่งเป็น 6 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) ประเภท ก

(2) ประเภท ข

(3) ประเภท ค

(4) ประเภท ง

(5) ประเภท จ

(6) ประเภท ฉ

ข้อ 15 สถานีบริการน้ำมันประเภท ก ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการแก่ยานพาหนะทางบก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ติดเขตทางหลวง ถนนสาธารณะ หรือถนนส่วนบุคคล ที่มีขนาดความกว้างตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และเก็บน้ำมันไว้ในถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน

ข้อ 16 สถานีบริการน้ำมันประเภท ข ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการแก่ยานพาหนะทางบก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ติดเขตทางหลวง ถนนสาธารณะ หรือถนนส่วนบุคคล ที่มีขนาดความกว้างตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และเก็บน้ำมันไว้ในถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน

ข้อ 17 สถานีบริการน้ำมันประเภท ค มี 2 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(1) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการแก่ยานพาหนะทางบก ที่เก็บน้ำมันที่มีปริมาณไม่เกิน 10,000 ลิตร ไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดิน และจะเก็บน้ำมันไว้ในถังน้ำมันรวมกันไม่เกิน 2 ถัง อีกด้วยก็ได้

(2) ลักษณะที่สอง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการแก่ยานพาหนะทางบก ที่เก็บน้ำมันที่มีปริมาณเกิน 10,000 ลิตรขึ้นไป ไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดิน และจะเก็บน้ำมันที่มีปริมาณไม่เกิน 5,000 ลิตร ไว้ในถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดินอีกด้วยก็ได้

การเก็บน้ำมันไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดินตามวรรคหนึ่ง ให้เก็บได้เฉพาะน้ำมันชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟน้อยเท่านั้น

ข้อ 18 สถานีบริการน้ำมันประเภท ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟมาก ชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟน้อย ไว้ในถังน้ำมัน การเก็บน้ำมันไว้ในถังน้ำมันตามวรรคหนึ่ง ให้เก็บได้ไม่เกินชนิดละ 2 ถัง

ข้อ 19 สถานีบริการน้ำมันประเภท จ มี 2 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(1) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่เก็บน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางหรือชนิดไวไฟน้อยที่มีปริมาณไม่เกิน 10,000 ลิตร ไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดินหรือถังเก็บน้ำมันที่ติดตั้งภายในโป๊ะเหล็ก เพื่อให้บริการแก่เรือ

(2) ลักษณะที่สอง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่เก็บน้ำมันที่มีปริมาณเกิน 10,000 ลิตรขึ้นไป ไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดิน ถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน หรือถังเก็บน้ำมันที่ติดตั้งภายในโป๊ะเหล็ก เพื่อให้บริการแก่เรือ

การเก็บน้ำมันไว้ในถังเก็บน้ำมันเหนือพื้นดินหรือถังเก็บน้ำมันที่ติดตั้งภายในโป๊ะเหล็กตามวรรคหนึ่ง ให้เก็บได้เฉพาะน้ำมันชนิดไวไฟปานกลางหรือชนิดไวไฟน้อยเท่านั้น

ข้อ 20 สถานีบริการน้ำมันประเภท ฉ ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันที่ให้บริการแก่อากาศยาน

ข้อ 21 ระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ ได้แก่ ระบบที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายน้ำมันจากอุปกรณ์วัดปริมาตรน้ำมันผ่านท่อขนส่งน้ำมันต้นทางไปยังอุปกรณ์วัดปริมาตรน้ำมันที่ปลายทาง ซึ่งประกอบด้วยท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการขนส่งน้ำมัน

ส่วนที่ 2
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว

-------------------------

ข้อ 22 ภาชนะบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวมี 5 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) กระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(2) ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม

(3) ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวรถยนต์

(4) ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(5) ถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 23 กระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิงหรือเป็นตัวขับแรงดันในภาชนะบรรจุสารเคมีอื่นที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 1 ลิตร

ข้อ 24 ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพื่อใช้ในการหุงต้ม การให้แสงสว่าง หรือจุดประสงค์อื่นที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 500 ลิตร โดยผลิตตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

ข้อ 25 ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวรถยนต์ ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลว เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

ข้อ 26 ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณความจุเกิน 500 ลิตรขึ้นไป ที่ติดตั้งไว้ในคลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว สถานที่บรรจุ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือสถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ข้อ 27 ถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวเพื่อใช้ในการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณความจุเกิน 500 ลิตรขึ้นไป ที่นํามาตรึงไว้กับตัวโครงรถหรือแคร่รถไฟ

ข้อ 28 คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวและมีการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวระหว่างถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวกับถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือภาชนะขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางน้ำตามกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย

ข้อ 29 สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวมี 2 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) โรงบรรจุ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม รวมทั้งบริเวณของสถานที่ดังกล่าว

(2) ห้องบรรจุ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในกระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมทั้งบริเวณของสถานที่ดังกล่าว

ข้อ 30 สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวมี 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) สถานที่ใช้ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวไว้เพื่อการใช้เอง มี 3 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(ก) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ สถานที่ใช้ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มที่มีปริมาณเกิน 250 ลิตร แต่ไม่เกิน 500 ลิตร

(ข) ลักษณะที่สอง ได้แก่ สถานที่ใช้ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตร แต่ไม่เกิน 1,000 ลิตร

(ค) ลักษณะที่สาม ได้แก่ สถานที่ใช้ซึ่งใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณเกิน 1,000 ลิตรขึ้นไป

(2) ร้านจําหน่าย ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่บรรจุอยู่ในกระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มไว้เพื่อการจําหน่าย มี 2 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(ก) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ ร้านจําหน่ายที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวฃที่มีปริมาณเกิน 150 ลิตร แต่ไม่เกิน 500 ลิตร

(ข) ลักษณะที่สอง ได้แก่ ร้านจําหน่ายที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตรขึ้นไป

(3) โรงเก็บ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่บรรจุอยู่ในกระป๋องก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม แต่ไม่รวมถึงสถานที่ใช้หรือร้านจําหน่าย มี 2 ลักษณะ ดังต่อไปนี้

(ก) ลักษณะที่หนึ่ง ได้แก่ โรงเก็บที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณเกิน 500 ลิตร แต่ไม่เกิน 1,000 ลิตร

(ข) ลักษณะที่สอง ได้แก่ โรงเก็บที่มีการเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่มีปริมาณเกิน 1,000 ลิตรขึ้นไป

ข้อ 31 สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซปิโตรเลียมเหลว และมีการบรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวลงในถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวรถยนต์

ข้อ 32 ระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ ได้แก่ ระบบที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากอุปกรณ์วัดปริมาตรก๊าซปิโตรเลียมเหลวผ่านท่อขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวต้นทาง ไปยังอุปกรณ์วัดปริมาตรก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ปลายทาง ซึ่งประกอบด้วยท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว

ส่วนที่ 3
ก๊าซธรรมชาติ

-------------------------

ข้อ 33 ภาชนะบรรจุก๊าซธรรมชาติมี 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

(1) ถังก๊าซธรรมชาติรถยนต์

(2) ถังเก็บและจ่ายก๊าซธรรมชาติ

(3) ถังขนส่งก๊าซธรรมชาติ

ข้อ 34 ถังก๊าซธรรมชาติรถยนต์ ได้แก่ ภาชนะที่ใช้บรรจุก๊าซธรรมชาติเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือใช้เป็นเชื้อเพลิงกับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

ข้อ 35 ถังเก็บและจ่ายก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ ภาชนะที่ใช้บรรจุก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในสถานะก๊าซหรือของเหลว

ข้อ 36 ถังขนส่งก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ ภาชนะสำหรับบรรจุก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในสถานะก๊าซหรือของเหลวเพื่อใช้ในการขนส่งก๊าซธรรมชาติที่นํามาตรึงไว้กับตัวโครงรถหรือแคร่รถไฟ โดยจะติดตั้งหนึ่งถังหรือหลายถังก็ได้ และมีปริมาณความจุรวมกันเกิน 500 ลิตรขึ้นไป

ข้อ 37 คลังก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซธรรมชาติ ตาม (1) ของบทนิยามคำว่า “ก๊าซธรรมชาติ” ในข้อ 3 ที่มีปริมาณเกิน 5,000 ลิตรขึ้นไป

ข้อ 38 สถานที่เก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ในการเก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ ตาม (1) ของบทนิยามคำว่า “ก๊าซธรรมชาติ” ในข้อ 3 ที่มีปริมาณไม่เกิน 5,000 ลิตร

ข้อ 39 สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ สถานที่ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติตาม (1) ของบทนิยาม คำว่า “ก๊าซธรรมชาติ” ในข้อ 3 เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน โรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

ข้อ 40 สถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเก็บก๊าซธรรมชาติและเป็นจุดจ่ายก๊าซธรรมชาติให้แก่ยานพาหนะ

ข้อ 41 ระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ ได้แก่ ระบบที่เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายก๊าซธรรมชาติตาม (1) ของบทนิยามคำว่า “ก๊าซธรรมชาติ” ในข้อ 3 ผ่านท่อขนส่งก๊าซธรรมชาติ ต้นทางไปยังปลายทาง ซึ่งประกอบด้วยท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการขนส่งก๊าซธรรมชาติ ดังกล่าว

หมวด 2
ประเภทและลักษณะของกิจการควบคุม
-------------------------

ข้อ 42 กิจการควบคุมประเภทที่ 1 ตามมาตรา 17 ได้แก่

(1) สถานที่เก็บรักษาน้ำมัน ลักษณะที่หนึ่ง

(2) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทสถานที่ใช้ ลักษณะที่หนึ่ง

ข้อ 43 กิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามมาตรา 17 ได้แก่

(1) สถานที่เก็บรักษาน้ำมัน ลักษณะที่สอง

(2) สถานีบริการน้ำมันประเภท ค ลักษณะที่หนึ่ง

(3) สถานีบริการน้ำมันประเภท ง

(4) สถานีบริการน้ำมันประเภท จ ลักษณะที่หนึ่ง

(5) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทสถานที่ใช้ ลักษณะที่สอง

(6) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจําหน่าย ลักษณะที่หนึ่ง

(7) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ ลักษณะที่หนึ่ง

(8) สถานที่เก็บรักษาก๊าซธรรมชาติ

ข้อ 44 กิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามมาตรา 17 ได้แก่

(1) ถังขนส่งน้ำมัน

(2) คลังน้ำมัน

(3) สถานที่เก็บรักษาน้ำมัน ลักษณะที่สาม

(4) สถานีบริการน้ำมันประเภท ก

(5) สถานีบริการน้ำมันประเภท ข

(6) สถานีบริการน้ำมันประเภท ค ลักษณะที่สอง

(7) สถานีบริการน้ำมันประเภท จ ลักษณะที่สอง

(8) สถานีบริการน้ำมันประเภท ฉ

(9) ระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ

(10) ถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(11) คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(12) สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงบรรจุ

(13) สถานที่บรรจุก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทห้องบรรจุ

(14) สถานีบริการก๊าซปิโตรเลียมเหลว

(15) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทสถานที่ใช้ ลักษณะที่สาม

(16) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจําหน่าย ลักษณะที่สอง

(17) สถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทโรงเก็บ ลักษณะที่สอง

(18) ระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ

(19) ถังขนส่งก๊าซธรรมชาติ

(20) คลังก๊าซธรรมชาติ

(21) สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ

(22) สถานีบริการก๊าซธรรมชาติ

(23) ระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ

หมวด 3
การแจ้งการประกอบกิจการควบคุม

-------------------------

ข้อ 45 ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามข้อ 43 ต้องแจ้งการประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบ ธพ.ป.1 ท้ายกฎกระทรวงนี้ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าว

การประกอบกิจการตามวรรคหนึ่งเกินกว่าหนึ่งแห่ง ให้ผู้ประกอบกิจการแจ้งการประกอบกิจการทุกแห่ง

ข้อ 46 เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งแล้ว ให้ออกใบรับแจ้งตามแบบ ธพ.ป.2 ท้ายกฎกระทรวงนี้ให้แก่ผู้แจ้งในวันที่รับแจ้ง และให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานให้อธิบดีทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ออกใบรับแจ้ง ในการนี้ให้ผู้แจ้งประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ได้ตั้งแต่วันที่แจ้ง

ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจพบในภายหลังว่าการแจ้งไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน และได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดต่อผู้ประกอบกิจการแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่รายงานให้อธิบดีทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ

ข้อ 47 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ให้ผู้ประกอบกิจการ แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามแบบ ธพ.ป.1 ท้ายกฎกระทรวงนี้ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐาน ตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าว และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในข้อ 46

ข้อ 48 การแจ้งตามข้อ 45 และข้อ 47 ให้แจ้ง ณ สถานที่ที่อธิบดีประกาศกำหนด

หมวด 4
การอนุญาตการประกอบกิจการควบคุม
-------------------------

ข้อ 49 ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าว

ข้อ 50 การยื่นคำขอรับใบอนุญาตตามข้อ 49 ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

(1) ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ กรมธุรกิจพลังงาน หรือ ณ สถานที่ที่อธิบดีประกาศกำหนด

(2) ในเขตจังหวัดอื่นนอกจากเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สถานที่ที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ 51 ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด

ใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้มีอายุถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีที่ออกใบอนุญาต

การออกใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้แยกใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามประเภทและลักษณะของกิจการควบคุม และให้ใช้ได้เฉพาะกับสถานที่ประกอบกิจการถังขนส่ง น้ำมันเชื้อเพลิง หรือระบบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น

ข้อ 52 เมื่อผู้อนุญาตได้รับคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 แล้ว ให้ตรวจสอบรายละเอียดในคำขอรับใบอนุญาต เอกสาร และหลักฐานว่ามีความถูกต้องและครบถ้วน หรือไม่

ในกรณีที่ผู้อนุญาตตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายละเอียดในคำขอรับใบอนุญาต เอกสาร หรือหลักฐานไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้อนุญาตแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตแก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับ ใบอนุญาตหรือจัดส่งเอกสารหรือหลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตกำหนด

ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตไม่แก้ไขเพิ่มเติมคำขอรับใบอนุญาต หรือไม่จัดส่งเอกสารหรือหลักฐานให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในกำหนดเวลาตามวรรคสอง ให้ถือว่าผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต ทิ้งคำขอรับใบอนุญาต และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ แล้วแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอ รับใบอนุญาตทราบ

ในกรณีที่ผู้อนุญาตตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายละเอียดในคำขอรับใบอนุญาต เอกสาร และหลักฐานมีความถูกต้องและครบถ้วน ให้ผู้อนุญาตมีคำสั่งรับคำขอรับใบอนุญาตไว้พิจารณา

ข้อ 53 เมื่อมีคำสั่งรับคำขอรับใบอนุญาตตามข้อ 52 แล้ว ผู้อนุญาตจะมีคำสั่งออกใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ให้แก่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตได้ต่อเมื่อปรากฏว่าผู้อนุญาตได้ดำเนินการตรวจสอบสถานที่และสิ่งก่อสร้าง และได้ทดสอบและตรวจสอบถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ โดยต้องแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอ รับใบอนุญาตทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้วเสร็จ

ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคำสั่งออกใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตมารับใบอนุญาตภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งออกใบอนุญาต หากไม่มารับใบอนุญาตภายในกำหนดเวลาถือว่าสละสิทธิ การเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 และให้ผู้อนุญาตจําหน่ายเรื่องออกจากสารบบ

ในกรณีที่ผู้อนุญาตมีคำสั่งไม่ออกใบอนุญาต ให้แจ้งคำสั่งดังกล่าวเป็นหนังสือให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทราบ ทั้งนี้ ให้ระบุเหตุผลของการไม่อนุญาต รวมทั้งแจ้งสิทธิอุทธรณ์ การยื่นคำอุทธรณ์ และระยะเวลาสำหรับการอุทธรณ์ให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตทราบด้วย

ข้อ 54 ในกรณีที่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ประสงค์จะก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย ใช้ หรือเปลี่ยนการใช้อาคารที่ใช้ประกอบกิจการ และประสงค์ให้ผู้อนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นผู้ออกใบอนุญาต ใบรับแจ้ง หรือ ใบรับรองการใช้อาคารประเภทควบคุมการใช้ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ให้ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ยื่นคำขอ พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่กำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารต่อผู้อนุญาต ณ สถานที่ที่ยื่นคำขอ รับใบอนุญาตตามข้อ 50

แบบคำขออนุญาต ใบแจ้ง ใบอนุญาต ใบรับแจ้ง และใบรับรองการใช้อาคาร ให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร

การพิจารณาออกใบอนุญาต ใบรับแจ้ง หรือใบรับรองการใช้อาคารตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการดังกล่าว ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารอ้างถึง “เจ้าพนักงานท้องถิ่น” ให้หมายความถึง “ผู้อนุญาต” ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง

ข้อ 55 ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงลักษณะของสถานที่ประกอบกิจการ ถังขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อ ให้แตกต่างไปจากที่ได้รับอนุญาตไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต โดยจะต้องยื่นคำขออนุญาตแก้ไข เปลี่ยนแปลงดังกล่าวตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าว

ใบอนุญาตให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด

ให้นําความในข้อ 50 ข้อ 52 และข้อ 53 มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอและการพิจารณาคำขอตามความในข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม

ข้อ 56 ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 จะใช้ถังเก็บน้ำมันในการเก็บน้ำมันต่างชนิดจากที่ได้รับอนุญาตให้ใช้เก็บน้ำมันไม่ได้ เว้นแต่เป็นการใช้ถังเก็บน้ำมันชนิดที่ไวไฟมากกว่าเก็บน้ำมันชนิดที่ไวไฟน้อยกว่า และต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้้อนุญาตทราบทุกครั้งที่มีการใช้ถังเก็บน้ำมันต่างชนิดกัน

ข้อ 57 ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ต้องจัดทำสัญญาประกันภัยและกรมธรรม์ประกันภัย โดยกรมธรรม์ดังกล่าวต้องกำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุม ประเภทที่ 3 เป็นผู้เอาประกันภัย และให้บุคคลหรือนิติบุคคลผู้ได้รับความเสียหายอันเนื่องมาจาก การประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ของผู้เอาประกันภัย เป็นผู้รับประโยชน์ เพื่อเป็นค่าเสียหายอันเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์์สินของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด

ข้อ 58 ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ผู้ใดประสงค์จะขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าวภายในหกสิบวันก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ และเมื่อได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตแล้ว ให้ถือว่าผู้ยื่นคำขออยู่ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจนกว่าจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต

ให้นําความในข้อ 50 ข้อ 52 และข้อ 53 มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาตตามความในข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม

ใบอนุญาตที่ขอต่ออายุตามวรรคหนึ่ง ให้มีอายุถึงวันที่ 31 ธันวาคม ของปีถัดจากปีที่ใบอนุญาตฉบับเดิมสิ้นอายุ

การอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตจะแสดงไว้ในรายการท้ายใบอนุญาตหรือจะออกใบอนุญาตให้ใหม่ก็ได้

ข้อ 59 ในกรณีที่ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 สูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งต่อผู้อนุญาตและยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบคำขอรับใบแทนใบอนุญาตภายใน สิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหายหรือถูกทำลายดังกล่าว

ใบแทนใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ให้ใช้แบบใบอนุญาตและเขียนหรือประทับตราความว่า “ใบแทน” ด้วยอักษรสีแดงไว้ด้านบนของใบอนุญาต และให้ระบุวัน เดือน ปี ที่ออกใบแทน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อผู้อนุญาตกำกับไว้ด้วย

ให้นําความในข้อ 50 ข้อ 52 และข้อ 53 มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตและการออกใบแทนใบอนุญาตตามความในข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้ การออกใบแทนใบอนุญาต ผู้อนุญาตไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบสถานที่และสิ่งก่อสร้าง และทดสอบและตรวจสอบถัง ท่อ อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 60 ผู้้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ผู้ใดประสงค์จะโอนกิจการ ตามที่ได้รับอนุญาตให้แก่บุคคลอื่น ให้ผู้รับใบอนุญาตและผู้ขอรับโอนใบอนุญาตยื่นคำขอโอนใบอนุญาต ตามแบบที่อธิบดีประกาศกำหนด พร้อมด้วยเอกสารและหลักฐานตามที่ระบุไว้ในแบบดังกล่าว

ใบอนุญาตที่ได้รับอนุญาตให้โอนแล้ว ให้เขียนหรือประทับตราความว่า “โอนแล้ว” ด้วยอักษรสีแดงไว้ด้านบนของใบอนุญาต และให้ระบุชื่อผู้รับโอน วัน เดือน ปีที่อนุญาตให้โอน พร้อมทั้งลงลายมือชื่อผู้อนุญาตกำกับไว้ด้วย

ให้นําความในข้อ 50 ข้อ 52 และข้อ 53 มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอโอนใบอนุญาตและการโอนใบอนุญาตตามความในข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้ การโอนใบอนุญาต ผู้อนุญาตไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบสถานที่และสิ่งก่อสร้าง และทดสอบและตรวจสอบถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ข้อ 61 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตาย สิ้นสภาพนิติบุคคล หรือตกเป็นบุคคลล้มละลาย ให้ทายาทหรือผู้จัดการมรดก ผู้ชําระบัญชี หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ยื่นคำขอต่อผู้อนุญาต เพื่อรับโอนใบอนุญาตภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ผู้รับใบอนุญาตตาย สิ้นสภาพ นิติบุคคล หรือตกเป็นบุคคลล้มละลาย แล้วแต่กรณี หรือภายในระยะเวลาที่ผู้อนุญาตขยายเวลาให้ตามความจําเป็น ถ้ามิได้ยื่นคำขอภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าใบอนุญาตสิ้นอายุ หากจะประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้นต่อไปให้ดำเนินการขอรับใบอนุญาตใหม่

ในระหว่างระยะเวลาการโอนใบอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ถือเสมือนว่าทายาทหรือผู้จัดการมรดก ผู้ชําระบัญชี หรือเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ซึ่งเข้าประกอบกิจการตามใบอนุญาตนั้นเป็นผู้รับใบอนุญาต

ให้นําความในข้อ 50 ข้อ 52 และข้อ 53 มาใช้บังคับกับการยื่นคำขอรับโอนใบอนุญาตและการรับโอนใบอนุญาตตามความในข้อนี้ด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้ การรับโอนใบอนุญาต ผู้อนุญาต ไม่ต้องดำเนินการตรวจสอบสถานที่และสิ่งก่อสร้าง และทดสอบและตรวจสอบถัง ท่อ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หมวด 5
ค่าธรรมเนียม
-------------------------

ส่วนที่ 1 น้ำมัน
-------------------------

ข้อ 62 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 ใบแทนใบอนุญาต การอนุญาตให้ใช้ภาชนะบรรจุน้ำมัน หรือระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ และการต่ออายุ ใบอนุญาต ให้เรียกเก็บตามอัตรา ดังต่อไปนี้

(1) ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ฉบับละ 200 บาท

(2) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 200 บาท

(3) การอนุญาตให้ใช้ขวดน้ำมัน กระป๋องน้ำมัน หรือถังน้ำมันเพื่อเก็บน้ำมัน ภายในสถานีบริการน้ำมัน ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาณรวมของน้ำมันแต่ละชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) น้ำมันชนิดไวไฟน้อย

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 200 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 20 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ข) น้ำมันชนิดไวไฟปานกลาง

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 250 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 25 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ค) น้ำมันชนิดไวไฟมาก

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 300 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 30 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(4) การอนุญาตให้ใช้ขวดน้ำมัน กระป๋องน้ำมัน หรือถังน้ำมันเพื่อเก็บน้ำมัน นอกสถานีบริการน้ำมัน ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาณรวมของน้ำมันแต่ละชนิด ดังต่อไปนี้

(ก) น้ำมันชนิดไวไฟน้อย

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 400 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 40 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ข) น้ำมันชนิดไวไฟปานกลาง

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 600 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ค) น้ำมันชนิดไวไฟมาก

ปริมาณรวมไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 800 บาท

ปริมาณที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 80 บาทต่อปริมาณ 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(5) การอนุญาตให้ใช้ถังเก็บน้ำมันซึ่งไม่รวมถึงถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน ให้คิดค่าธรรมเนียมตามชนิดของน้ำมันและปริมาตรของถัง ดังต่อไปนี้

(ก) น้ำมันชนิดไวไฟน้อย

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 400 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 40 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ข) น้ำมันชนิดไวไฟปานกลาง

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 600 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ค) น้ำมันชนิดไวไฟมาก

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 800 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 80 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

ยกเว้นน้ำมันดิบหรือสิ่งอื่นที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการกลั่นหรือผลิตน้ำมัน ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 40 บาท ต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ง) ในกรณีที่มีการอนุญาตให้ใช้ถังเก็บน้ำมันอันมีลักษณะแบ่งเป็นช่องสำหรับใช้เก็บน้ำมันชนิดไวไฟน้อย ชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟมาก ให้คิดค่าธรรมเนียมสำหรับถังเก็บน้ำมันนี้ในอัตรา ของถังเก็บน้ำมันชนิดที่ไวไฟมากที่สุด

(6) การอนุญาตให้ใช้ถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดิน ให้คิดค่าธรรมเนียมตามชนิดของน้ำมันและปริมาตรของถัง ดังต่อไปนี้

(ก) น้ำมันชนิดไวไฟน้อย

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 200 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 20 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ข) น้ำมันชนิดไวไฟปานกลาง

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 250 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 25 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ค) น้ำมันชนิดไวไฟมาก

ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 300 บาท

ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 30 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(ง) ในกรณีที่มีการอนุญาตให้ใช้ถังเก็บน้ำมันใต้พื้นดินอันมีลักษณะแบ่งเป็นช่องสำหรับ ใช้เก็บน้ำมันชนิดไวไฟน้อย ชนิดไวไฟปานกลาง หรือชนิดไวไฟมาก ให้คิดค่าธรรมเนียมสำหรับ ถังเก็บน้ำมันนี้ในอัตราของถังเก็บน้ำมันชนิดไวไฟมากที่สุด

(7) การอนุญาตให้ใช้ถังขนส่งน้ำมันที่มีปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 250 บาท

(8) การอนุญาตให้ใช้ระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาตรรวมของท่อ ดังต่อไปนี้

(ก) ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 600 บาท

(ข) ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(9) การต่ออายุใบอนุญาต ให้คิดค่าธรรมเนียมตามอัตรา (1) (3) (4) (5) (6) (7) หรือ (8) แล้วแต่กรณี

ส่วนที่ 2
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว
-------------------------

 ข้อ 63 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 ใบแทนใบอนุญาต การอนุญาตให้ใช้ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว ถังขนส่ง ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ และการต่ออายุใบอนุญาต ให้เรียกเก็บตามอัตรา ดังต่อไปนี้

(1) ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ฉบับละ 200 บาท

(2) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 200 บาท

(3) การอนุญาตให้ใช้ถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้ม ให้คิดค่าธรรมเนียมการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวจากถังก๊าซปิโตรเลียมเหลวหุงต้มรวมกัน ดังต่อไปนี้

(ก) ปริมาณรวมไม่เกิน 10,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 300 บาท

(ข) ปริมาณที่เกินจาก 10,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 2,000 บาท

(4) การอนุญาตให้ใช้ถังเก็บและจ่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือถังขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวแต่ละถังให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาตรของถัง ดังต่อไปนี้

(ก) ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 800 บาท

(ข) ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 80 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(5) การอนุญาตให้ใช้ระบบการขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลวทางท่อ ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาตรรวมของท่อ ดังต่อไปนี้

(ก) ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 600 บาท

(ข) ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(6) การต่ออายุใบอนุญาต ให้คิดค่าธรรมเนียมตามอัตรา (1) (3) (4) หรือ (5) แล้วแต่กรณี

ส่วนที่ 3
ก๊าซธรรมชาติ
-------------------------

 ข้อ 64 ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 ใบแทนใบอนุญาต การอนุญาตให้ใช้ภาชนะบรรจุก๊าซธรรมชาติ หรือระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ หรือการอนุญาตให้ใช้ก๊าซธรรมชาติ ณ สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ และการต่ออายุใบอนุญาต ให้เรียกเก็บตามอัตรา ดังต่อไปนี้

(1) ใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ฉบับละ 200 บาท

(2) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 200 บาท

(3) การอนุญาตให้ใช้ภาชนะบรรจุก๊าซธรรมชาติ ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาตรของถัง ดังต่อไปนี้

(ก) ถังเก็บและจ่ายก๊าซธรรมชาติภายในสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ที่มีปริมาตรไม่เกิน 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 20 บาท ปริมาตรที่เกินจาก 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียม ในอัตราถังละ 200 บาท

(ข) ถังเก็บและจ่ายก๊าซธรรมชาติภายในสถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ที่มีปริมาตรไม่เกิน 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 20 บาท ปริมาตรที่เกินจาก 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียม ในอัตราถังละ 200 บาท

(ค) ถังขนส่งก๊าซธรรมชาติ ที่มีปริมาตรไม่เกิน 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 20 บาท ปริมาตรที่เกินจาก 200 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตราถังละ 200 บาท

(ง) ถังเก็บและจ่ายก๊าซธรรมชาติภายในคลังก๊าซธรรมชาติ ที่มีปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 400 บาท ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 40 บาท ต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(4) การอนุญาตให้ใช้ระบบการขนส่งก๊าซธรรมชาติทางท่อ ให้คิดค่าธรรมเนียมตามปริมาตรรวมของท่อ ดังต่อไปนี้

(ก) ปริมาตรไม่เกิน 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 600 บาท

(ข) ปริมาตรที่เกินจาก 100,000 ลิตร ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 60 บาทต่อปริมาตร 10,000 ลิตร เศษของ 10,000 ลิตร ให้คิดเป็น 10,000 ลิตร

(5) การอนุญาตให้ใช้ก๊าซธรรมชาติ ณ สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ให้คิดค่าธรรมเนียม ตามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อที่ส่งก๊าซธรรมชาติออกจากอุปกรณ์วัดปริมาตรก๊าซธรรมชาติเข้าสู่สถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ดังต่อไปนี้

(ก) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อไม่เกิน 1 นิ้ว ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 500 บาท

(ข) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อเกิน 1 นิ้ว แต่ไม่เกิน 2 นิ้ว ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 1,000 บาท

(ค) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อเกิน 2 นิ้ว แต่ไม่เกิน 3 นิ้ว ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 2,000 บาท

(ง) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อเกิน 3 นิ้ว แต่ไม่เกิน 4 นิ้ว ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 3,000 บาท

(จ) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของท่อเกิน 4 นิ้ว ให้คิดค่าธรรมเนียมในอัตรา 4,000 บาท

(6) การต่ออายุใบอนุญาต ให้คิดค่าธรรมเนียมตามอัตรา (1) (3) (4) หรือ (5) แล้วแต่กรณี

บทเฉพาะกาล
-------------------------

ข้อ 65 ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ำมันโดยได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ในประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ที่เกี่ยวกับน้ำมัน ตามกฎกระทรวงนี้ และหากประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้แจ้งการประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ำมันโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ในประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับน้ำมันตามกฎกระทรวงนี้จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามข้อ 58

ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับน้ำมันโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ในประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 และได้ยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตตามกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุม ประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับน้ำมันตามกฎกระทรวงนี้ จนกว่าจะได้รับแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต

ข้อ 66 ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยได้รับความเห็นชอบจากกรมธุรกิจพลังงานตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2514 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภท หรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ที่เกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้

ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยได้รับความเห็นชอบจากกรมธุรกิจพลังงานตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2514 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภทหรือ ลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้

ผู้ประกอบกิจการซึ่งถือว่าได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามวรรคหนึ่ง หรือได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามวรรคสอง หากประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้แจ้งการประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ 67 ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยได้แจ้งการครอบครองก๊าซปิโตรเลียมเหลวซึ่งเป็นวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อ วัตถุอันตราย พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2546 ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการ ในการเก็บรักษา การขนส่ง การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบ และการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับการค้าปลีกวัตถุอันตรายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่ กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 หรือประกาศ กระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบ และการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับสถานที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ที่เกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้

ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยได้แจ้งการครอบครองก๊าซปิโตรเลียมเหลว ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2546 ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการเก็บรักษา การขนส่ง การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบ และการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับการค้าปลีกวัตถุอันตรายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภท หรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้ ทั้งนี้ การครอบครองก๊าซปิโตรเลียมเหลวของผู้ประกอบกิจการดังกล่าวต้องไม่เกินปริมาณตามที่ได้แจ้งไว้ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมดังกล่าว

ผู้ประกอบกิจการซึ่งถือว่าได้แจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามวรรคหนึ่ง หรือได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามวรรคสอง หากประสงค์จะประกอบกิจการต่อไป ให้แจ้งการประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ 68 ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการบรรจุก๊าซตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2514 หรือได้รับใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองก๊าซปิโตรเลียมเหลว ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชี รายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2546 ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ และวิธีการในการเก็บรักษา การขนส่ง การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบ และการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับการค้าปลีกวัตถุอันตรายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 หรือประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ ในการเก็บรักษา การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบ และการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับสถานที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภท หรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวตามกฎกระทรวงนี้จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามข้อ 58

ข้อ 69 ผู้ใดประกอบกิจการเกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติโดยได้รับใบอนุญาตมีไว้ในครอบครองก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุอันตรายตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552 ซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และมาตรฐานความปลอดภัยของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ที่กรมธุรกิจพลังงานมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2546 หรือประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2550 ลงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2550 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามกฎกระทรวงนี้ ให้ถือว่าเป็นผู้ประกอบกิจการตามประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมนั้นโดยได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ที่เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติตามกฎกระทรวงนี้จนกว่าใบอนุญาตจะสิ้นอายุ สำหรับการต่ออายุใบอนุญาตให้เป็นไปตามข้อ 58

ข้อ 70 ผู้ใดประกอบกิจการโดยมีน้ำมันไว้ในครอบครองเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าลักษณะกิจการควบคุมประเภทที่ 2 หรือกิจการควบคุมประเภทที่ 3 อยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้แจ้งการประกอบกิจการต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ 71 เพื่อประโยชน์ในการรวบรวมข้อมูลสถิติสำหรับการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 7 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ตามข้อ 43 (8) ให้ผู้ประสงค์จะประกอบกิจการตามข้อ 43 (8) แจ้งการประกอบกิจการตามกฎกระทรวงนี้ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ออกใบรับแจ้งให้แก่ผู้แจ้ง และเมื่อกฎกระทรวงตามมาตรา 7 ดังกล่าวใช้บังคับ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้ผู้แจ้งดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวงนั้นด้วย

ข้อ 72 เพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยของการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 (1) (9) (18) (19) (20) และ (23) ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎกระทรวงตามมาตรา 7 ซึ่งกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการประกอบกิจการดังกล่าวใช้บังคับ ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้

(1) ผู้ใดประกอบกิจการที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 (1) (19) และ (20) อยู่แล้วก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และให้ผู้อนุญาตพิจารณาออกใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ให้แก่ผู้ประกอบกิจการนั้น

(2) ผู้ใดประกอบกิจการที่เข้าประเภทหรือลักษณะของกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 (9) (18) และ (23) อยู่แล้วก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ และให้ผู้อนุญาตออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบกิจการนั้น

(3) ผู้ใดประสงค์จะประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ตามข้อ 44 (1) (9) (18) (19) (20) และ (23) นับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตต่อผู้อนุญาตตามกฎกระทรวงนี้ และให้ผู้อนุญาตพิจารณาออกใบอนุญาตตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ ให้แก่ผู้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต

ในการอนุญาตตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้อนุญาตมีอำนาจกำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติได้ตามความเหมาะสม โดยให้คำนึงถึงประโยชน์แห่งการป้องกันอัคคีภัย ความมั่นคงแข็งแรง ความปลอดภัย การสาธารณสุข การผังเมือง การอำนวยความสะดวกแก่การจราจร การป้องกันหรือระงับเหตุเดือดร้อน รําคาญหรือความเสียหายหรืออันตรายที่จะมีผลกระทบต่อบุคคล สัตว์ พืช ทรัพย์ หรือสิ่งแวดล้อม หรือการอื่นใดที่จําเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แห่งพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542

ข้อ 73 ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการยกเลิกการกำหนดให้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือก๊าซธรรมชาติเป็นวัตถุอันตรายในบัญชีท้ายประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538 ให้ถือว่าการแจ้งหรือการขอรับใบอนุญาตการประกอบกิจการ ตามกฎกระทรวงนี้เป็นการดำเนินการเกี่ยวกับก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือก๊าซธรรมชาติตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย แล้วแต่กรณี

ข้อ 74 คำขอใด ๆ ตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 ที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้ถือว่าเป็นคำขอตามกฎกระทรวงนี้โดยอนุโลม

คำขอใด ๆ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2529) ออกตามความในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2514 และคำขอและหนังสือใด ๆ ตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ประกอบกับประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2546 ที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการก๊าซปิโตรเลียมเหลว ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้ถือว่าเป็นคำขอตามกฎกระทรวงนี้โดยอนุโลม

คำขอและหนังสือใด ๆ ตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ประกอบกับประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2552 ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552 ที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติ ที่ได้ยื่นไว้ก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับและยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา ให้ถือว่าเป็นคำขอตามกฎกระทรวงนี้โดยอนุโลม

ในกรณีที่คำขอหรือหนังสือที่ยื่นตามวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม และเอกสารหรือหลักฐานที่ยื่นพร้อมคำขอหรือหนังสือดังกล่าวแตกต่างไปจากกฎกระทรวงนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้อนุญาตแล้วแต่กรณี มีอำนาจสั่งให้แก้ไขเพิ่มเติมคำขอหรือหนังสือและจัดส่งเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวงนี้ได้

ข้อ 75 ในกรณีที่รัฐมนตรีได้ประกาศให้น้ำมันอื่นเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงตาม (2) ของบทนิยาม คำว่า “น้ำมันเชื้อเพลิง” ในมาตรา 4 ให้ผู้มีน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวไว้ในครอบครองในวันที่ประกาศนั้นใช้บังคับ และเข้าลักษณะกิจการควบคุมประเภทที่ 1 ประเภทที่ 2 หรือประเภทที่ 3 ดำเนินการ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้สำหรับกิจการควบคุมประเภทนั้นภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ

ข้อ 76 บรรดาประกาศที่ออกตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ให้ยังคงใช้บังคับกับการประกอบกิจการน้ำมันได้ต่อไป เพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ จนกว่าจะมีประกาศตามกฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่กฎกระทรวงนี้ใช้บังคับ

ข้อ 77 ให้นําประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา การขนส่ง การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบและการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับการค้าปลีกวัตถุอันตรายก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2549 มาใช้บังคับกับการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษา ก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทร้านจําหน่ายหรือประเภทโรงเก็บ เพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้

ให้นําประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษา การกำหนดบุคลากรที่รับผิดชอบและการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 สำหรับสถานที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 มาใช้บังคับกับการประกอบกิจการสถานที่เก็บรักษาก๊าซปิโตรเลียมเหลวประเภทสถานที่ใช้ เพียงเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้ ให้นําประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และมาตรฐานความปลอดภัยของสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ ที่กรมธุรกิจพลังงานมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ พ.ศ. 2546 ลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2546 และประกาศกระทรวงพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่ใช้ ก๊าซธรรมชาติ ที่กรมธุรกิจพลังงานรับผิดชอบ พ.ศ. 2550 ลงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2550 มาใช้บังคับกับการประกอบกิจการสถานีบริการก๊าซธรรมชาติและสถานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เพียงเท่าที่ไม่ขัด หรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้

 

ให้ไว้ ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

 

เล่ม 130 ตอนที่ 29 ก ราชกิจจานุเบกษา 27 มีนาคม 2556

 

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550 ได้แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “น้ำมันเชื้อเพลิง” ตามพระราชบัญญัติควบคุม น้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542 ให้ครอบคลุมถึงน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ ดังนั้น สมควรปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตรา ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2546 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับ การประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการแจ้ง การอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการประกอบกิจการน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ครอบคลุมถึงการประกอบกิจการน้ำมัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว และก๊าซธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

 




กฎหมาย




Copyright © 2012 All Rights Reserved.


  

 

สมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร | THE BUILDING INSPECTORS ASSOCIATION
เลขที่ 487 ซ.รามคำแหง 39 (เทพลีลา 1) ถ.รามคำแหง
แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ 10310
โทรศัพท์: 0-2184-4612   โทรสาร: 0-2184-4613
http://www.bsa.or.th